ข้อสอบประเภทคำนวณ ในการสอบ PMP (ตอนที่ 3 : Decision Tree)
โจทย์ข้อสอบ PMP ที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณ Decision Tree หรือ Expected Monetary Value (EMV) จะเป็นข้อสอบคำนวณที่ออกแน่นอนในการสอบ PMP แต่ละครั้ง ประมาณ 2-3 ข้อ ความยากของข้อสอบประเภทนี้ คือการตีความโจทย์ ออกมาเป็นแผนภูมิต้นไม้ โดยโจทย์จะกำหนดทางเลือกในแต่ละทางเลือกให้ และมีค่าของต้นทุนทางการเงิน ในแต่ละทางเลือก รวมถึงโอกาสเกิด ในแต่ละทางเลือก แล้วนำมาเขียนแผนภูมิต้นไม้ โดยความยากของ โจทย์ จะแตกต่างกันไปตามรูปแบบของ แผนภูมิต้นไม้ ดังนี้
- โจทย์ประเภท แผนภูมิต้นไม้ แบบ 2 ทางเลือก แบบชั้นเดียว
ตัวอย่าง 1
Lorenzo is the project manager of a construction project. Major milestone is due to be achieved in next month. He predicts the chance of increasing of materials cost is 40% due to political problems in his country and lead to project delay with impact $60,000. On the other hands, if risk does not happen, project can be achieved the milestone and the customer will award $12,000 as a bonus. What is the EMV of this risk?
A. -24,000
B. 7,200
C. -7,200
D. -16,800
Answer : D
จากโจทย์ข้างต้น จะพบว่า มีทางเลือกอยู่ 2 ทางด้วยกัน คือ

กรณีที่ 1 โครงการล่าช้า ความเสียหาย = 60,000 และ มีโอกาสเกิด 40% ดังนั้น
EMV (1) = -60,000 x 40% = -24,000
กรณีที่ 2 โครงการไม่ล่าช้า จะไม่เกิดความเสียหาย แต่จะมีผลประโยชน์ เกิดขึ้น = 12,000 และมีโอกาสเกิด 60% ตัวเลขนี้ โจทย์ไม้ได้บอกมา แต่เราต้องทราบเอง เพราะ กรณีที่ 1 มีโอกาสเกิด 40% ดังนั้น กรณีที่ 2 จึงต้องมีโอกาสเกิด = 60%
EMV (2) = 12,000 x 60% = 7,200
ดังนั้น ผลรวมของ EMV ในกรณีนี้ จึง = EMV(1) + EMV(2)
= -24,000 + 7,200 = -16,800
- โจทย์ประเภท แผนภูมิต้นไม้ แบบ 2 ทางเลือก และ 2 ชั้น
ตัวอย่าง 2
Lorenzo is the project manager of a construction project. Major milestone is due to be achieved in next month. He predicts the chance of project delay due to lack of manpower is 40% caused by long weekend holidays. If he pays $20,000 in OT cost, the chance of project delay will be reduced to 15%. Project delay will impact $60,000. On the other hands, if project can be achieved the milestone, the customer will award $12,000 as a bonus. What is the best decision for his project ?
A. Pay OT to fasten the project
B. Not pay OT
C. Consult with expert or project sponsor
D. Negotiate with customer
Answer : B

จากโจทย์ข้างต้นจะพบว่า มีทางเลือกด้วยกัน 2 ทาง คือ
ทางเลือก A : ไม่จ่ายค่า OT
ทางเลือก B : จ่ายค่า OT = 20,000 เพื่อลดโอกาสที่โครงการจะล่าช้า
ทางเลือก A : ไม่จ่ายค่า OT
กรณีที่ 1 โครงการล่าช้า ความเสียหาย = 60,000 และ มีโอกาสเกิด 40% ดังนั้น
EMV (A1) = -60,000 x 40% = -24,000
กรณีที่ 2 โครงการไม่ล่าช้า จะไม่เกิดความเสียหาย แต่จะมีผลประโยชน์ เกิดขึ้น = 12,000 และมีโอกาสเกิด 60%
EMV (A2) = 12,000 x 60% = 7,200
ดังนั้น ผลรวมของ EMV (A) ในกรณีนี้ จึง = EMV(A1) + EMV(A2)
= -24,000 + 7,200 = -16,800
ทางเลือก B : จ่ายค่า OT = 20,000 เพื่อลดโอกาสที่โครงการจะล่าช้า
กรณีที่ 1 โครงการล่าช้า ความเสียหาย = 60,000 และ มีโอกาสเกิด 15% ดังนั้น
EMV (B1) = -60,000 x 15% = -9,000
กรณีที่ 2 โครงการไม่ล่าช้า จะไม่เกิดความเสียหาย แต่จะมีผลประโยชน์ เกิดขึ้น = 12,000 และมีโอกาสเกิด 85%
EMV (B2) = 12,000 x 85% = 10,200
ดังนั้น ผลรวมของ EMV (B) ในกรณีนี้ จึง = -20,000 + EMV(B1) + EMV(B2)
= -20,000 - 9,000 + 10,200 = -18,800
จากการคำนวณ EMV ของ ทางเลือก A และ B พบว่า ทางเลือก A มีค่า EMV มากกว่า จึงเป็นทางเลือก ที่ดีกว่า ดังนั้น จึงตอบ ข้อ B คือ ไม่มีความจำเป็นต้องจ่าย OT
ไพบูลย์ ปัญญายุทธการ (PMP)
|
|